เจ้าแม่กวนอิม สำนักสงฆ์ท่าแอต บางสะพานน้อย
วัดแก้วประเสริฐหรือวัดท่าแอต
วัดแก้วประเสริฐหรือวัดท่าแอตตั้งอยู่ที่ บ้านท่าแอต ตำบลปากคลอง อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร เริ่มกำเนิดเกิดขึ้นมา เมื่อพ.ศ. 2515 เป็นเวลาประมาณ 44 ปีเศษมาแล้วเดิมชื่อสำนักสงฆ์ควนเจริญ หรือสำนักสงฆ์ท่าแอต ต่อมาพระอาจารย์บรรจงธมฺมรโส ได้กระทำพิธีบูชา เทวาสาธุการ และปรึกษาหารือ กับลูกศิษย์หลายฝ่ายต่างเห็นชอบตรงกันว่า สมควรเปลี่ยนชื่อจากสำนักสงฆ์ควนเจริญ เป็น "สำนักสงฆ์แก้วประเสริฐ" และเป็น “วัดแก้วประเสริฐ” จนปัจจุบัน เพื่อให้เหมาะสมกับความดี ความงามของผู้ที่มาประพฤติปฏิบัติธรรม ซึ่งมีจิตใจขาวสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนแก้วที่ใสสะอาด และสง่างาม สมดังชื่อว่า "แก้วประเสริฐ"ความหมายคำว่า "แก้ว" นั้นหมายถึง แก้วที่ใส ที่สะอาด บริสุทธิ์ปราศจากสิ่งเจือปน คำว่า "ประเสริฐ" หมายถึง ดีงาม เมื่อรวม 2 คำเข้าด้วยกันเป็น แก้วประเสริฐ แล้ว จึงมีความหมายว่า "ดวงแก้วที่สุกใสสะอาดบริสุทธิ์ ยังประโยชน์เพื่อเป็นคุณอันประเสริฐ แก่มวลมนุษย์ชาติ"จึงเรียกดวงแก้วดวงนี้ว่า "แก้วประเสริฐ" การเดินทางโดยรถยนต์จากศาลหลักเมืองชุมพรเลี้ยวขวาไปยังถนนไตรรัตน์ตรงไปเจอสี่แยกมอนเดียร์เลี้ยวขวาตรงไปยังถนนไตรรัตน์ผ่านสถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร ผ่านแยกนิ๊งน๋อง(ถนนไตรรัตน์)โดยใช้ระยะทางประมาณ 3 กม. จากนั้นตรงไปยังเส้นถนนสะพลี-ปะทิวตรงไปตามถนนเส้นหลัก ใช้ระยะทาง 31 กม. เจอแยกตรงวัดตอนตะเคียนให้เลี้ยวขวาเพื่อวิ่งเข้าตำบลปากคลองใช้ระยะทางประมาณ 25 กม.จะมีป้ายบอกตลอดทางถึงเส้นทางไปวัดแก้วประเสริฐ(เป็นแผ่นป้ายสีน้ำเงิน)วัดแก้วประเสริฐอยู่ทางด้านซ้ายมือ เส้นทางที่ใช้เป็นถนนเลียบชายทะเล ไหล่ทางทั้งสองฝั่งเป็นเลนสำหรับขี่จักรยาน วัดแก้วประเสริฐเป็นวัดที่สร้างขึ้นบนเนินเขาริมชายทะเลซึ่งมองเห็นทิวทัศน์ของภูเขายอดเว้าแหว่งยื่นไปในทะเลปะทิวได้สวยงามมากดั่งภาพเขียน หลวงพ่อจงเจ้าอาวาสได้สร้างสิ่งก่อสร้างไว้มากมาย และหลากหลายความเชื่อ ทีมท่องเที่ยวเดินทางไปถึงวัดก็มุ่งไปสู่จุดสูงสุดของวัดก่อนเลยครับ พบกับพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยหันพระพักตร์ไปทางอ่าวทุ่งมหา เราเดินดูรอบๆ เห็นบริเวณโดยรอบของอ่าวทุ่งมหาได้ชัดเจน แนวโค้งของทุกหาด เกาะแก่งต่างๆ แนวป่าชายเลนเขียวขจี มีเรือประมงพื้นบ้านมาทอดสมอหลบคลื่นลม และรอเวลาเพื่อออกไปหาปลาต่อไป บนเขามีต้นไม้ให้ร่มครึ้มออกดอกแปลกตาให้ได้ชม แล้วเราก็เดินทางลงมาอีกระดับหนึ่ง ทางวัดได้สร้างแบบจำลองเพื่อสอนให้คนมุ่งทำความดี ละเว้นความชั่ว ด้วยการใช้หุ่นจำลองถึงวิถีแห่งการนำไปสู่สวรรค์ และหนทางไปสู่นรก วิธีการทำโทษต่อการกระทำผิดแบบต่างๆ มีคำอธิบายสลักลงบนแผ่นไม้ประกอบเพื่อให้ผู้เข้าไปชมได้เข้าใจไปง่ายยิ่งขึ้น หลังจากนั้นเราก็มาชมพระนาคปรก9 เศียร สูง 9.99 เมตร ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง องค์พระสวยเด่นอยู่ริมหน้าผา ขณะที่กำลังบันทึกภาพ มีวัวที่คนเลี้ยงนำมากินหญ้าใกล้ๆ เดินมาทักทายด้วยความเชื่อง เลยเล่นกับมันอยู่สักครู่จึงลงมาชมวัดต่อ หลังจากจอดรถที่ลานจอดขึ้นเนินมาจะพบกับเทพเจ้าของชาวจีนตั้งอยู่ให้สักการะ แล้วเราก็เดินเข้าไปยังบริเวณวัดระหว่างทางที่เดินเข้าไปพบว่าทางวัดกำลังก่อสร้างรูปเคารพเพิ่มเติมอยู่คาดว่าจะเป็นเทพเจ้าทางศาสนาพราหมณ์ครับ แล้วเราก็พบศาลที่ประดิษฐานพระรูปของรัชกาลที่ 5 และเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มีคนมาสักการะอยู่เรื่อยๆ พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวล้วนสามองค์เรียงกัน พระพุทธรูปองค์สีทองอร่ามตั้งอยู่บนเนินสูงดึงดูดสายตา พระพิฆเนศองค์ใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง และเราก็พบกับพระโพธิสัตว์กวนอิมแห่งทะเลใต้ สูง 9.99 เมตร พร้อมด้วยเสามังกร ที่อยู่บนเฉลียงที่สร้างยื่นออกมาจากแผ่นดินดูงดงามโดดเด่นยามเดินทางผ่าน เมื่อมองออกไปยังอ่าวทุ่งมหาก็มีความงามตามความสูงที่ลดหลั่นมาเรื่อยๆ เราเดินสำรวจจนถึงโรงทานที่มีบริการชา กาแฟ ขนม ผลไม้ สำหรับผู้มาเยี่ยมชมทุกท่าน อย่างไรก็ช่วยกันรักษาความสะอาดให้ทางวัด เวลาบ่ายคล้อย “หลวงตาจง” เจ้าอาวาสวัดแก้วประเสริฐ ออกมาพบปะกับผู้ที่มาทำบุญ ทางทีมท่องเที่ยวได้กราบนมัสการและสนทนากับท่านอยู่ครู่หนึ่ง เราจึงกราบนมัสการลาท่านเพื่อเดินทางต่อไป ทีมท่องเที่ยวเดินทางมาชมเนินทรายที่มีอยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย แต่ด้วยเวลาอันจำกัด จึงขอไม่ลงรายละเอียดเพราะเราไม่ได้สำรวจละเอียดนักจึงเก็บไว้เป็นการบ้านในคราวต่อๆ ไป เมื่อมาถึงทะเลแล้วจะไม่เดินบนชายหาดก็กระไรอยู่ จึงแวะที่หาดถ้ำธงที่อยู่ใกล้ๆ กันเพื่อชมหาดยามแสงสุดท้ายของวัน หาดถ้ำธงเป็นหาดที่ลาดเอียงไม่มาก มีหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ และสะพานปลาเอาไว้ขนส่งปลาสดยามเช้าเมื่อเรือเข้าเทียบท่า เป็นหาดที่สงบเงียบมีชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงมาเที่ยว บนชายหาดปูลมมากมายออกหาอาหารปรากฏเป็นก้อนทรายกลมๆ เต็มหาด นกตัวน้อยปราดเปรียวลงมาหาอาหารบริเวณน้ำตื้นเมื่อเห็นเรายอมนิ่งให้ถ่ายภาพครู่เดียวก็พากินบินหนี เราเดินมาเรื่อยๆ พบกับพี่ชาวประมงพื้นบ้านกำลังจะออกเรือไปจับสัตว์น้ำมาขาย เนื่องจากน้ำลงเยอะจึงขลุกขลักเล็กน้อยต้องช่วยกันนำเรือลงไปบริเวณที่น้ำทะเลซัดมาถึง แต่เราก็ยังเห็นรอยยิ้มจากพวกเขาทุกคน ลมทะเลพัดเอื่อยๆ อากาศเย็นสบายพร้อมกับตะวันที่ยอแสงลงเราจึงจากมาก่อนที่ฟ้าจะมืดสนิทแต่พกความสุขกลับมาเต็มเปี่ยม เพราะครั้งนี้เราได้ทั้งทำบุญและได้ชมวิถีชีวิตอันเรียบง่ายใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลาหากมีโอกาสเราจะกลับมาอีกครั้งเพื่อสัมผัสบรรยากาศอันงาม ง่าย แบบเต็มๆ |